• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดกรอบแคบๆในเช้านี้ หลังจากที่หุ้นกลุ่มภูมิภาคปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่จีนประกาศจะตอบโต้การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้ว

• ดัชนีนิกเกอิเปิดปรับขึ้น 0.28% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มสื่อสารที่เปิด +1.51% ขณะที่หุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.05%

• นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่นะหว่าง 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยทิศทางบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ รอดูผลประชุม กนง.วันพุธนี้

• นักวิเคราะห์บางส่วนคาด การประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% โดยไม่มีการเซอร์ไพรส์ต่อตลาด แต่สิ่งที่ทุกคนรอคอยจากกนง. คือการสื่อสารที่ชัดเจน เพราะล่าสุด ธปท.แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย.ค่อนข้างดี ทำให้เห็นภาพรวมของการขยายตัวเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2

ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ ทางกระทรวงพาณิชย์ไทยมีรายงานว่า ในเดือนก.ค. อยู่ที่ 1.46% เฉลี่ย 7 เดือนแรกอยู่ที่ 1.04% ซึ่งเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ระดับสูง แต่ดัชนีอาหารสดยังหดตัว ซึ่งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีนี้จะต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 1.3% ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้

แต่ครึ่งปีหลังนี้ก็มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีนจะยืดเยื้อหรือไม่ และจะขยายวงกว้างไปถึงประเทศอื่นหรือไม่ อีกปัญหาคือน้ำเต็มในเขื่อนของไทยที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม จะกระทบต่อผลผลิตของภาคเกษตรได้ ซึ่งจะซ้ำเติมกลุ่มนี้ด้านกำลังซื้อหายอีก ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาได้หรือไม่ หลังเกิดเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต ดังนั้นไตรมาส 3 นี้จึงต้องระวัง

อย่างไรก็ดี สำหรับไตรมาส 4 จะมีปัจจัยเสริมจากการคาดหวังเห็นการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4.3% แต่คงยังไม่เห็น กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายปลายปีนี้ คงจะเริ่มพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสแรกปีหน้า