ข่าว
สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2561
8 สิงหาคม 2561
• นักวิเคราะห์จาก FX Expire ประเมินว่าภาพรวมของดัชนี S&P 500 ดูแข็งแกร่งมากในช่วงตลาดเมื่อคื นที่ผ่านมา และยังคาดว่าบรรดานักลงทุนไม่ได้ มีมุมมองเชิงลบต่อดัชนีในคืนนี้ เลยอีกด้วย จึงคาดว่าดัชนีจะปรับตัวสูงขึ้น ในคืนนี้ต่อได้อีก อย่างไรก็ตาม อาจมีบางจังหวะที่ดัชนีย่อตัวลง มาบ้าง ดังนั้นจึงแนะนำให้หาจังหวะเข้า ซื้อเมื่อราคาย่อตัวมาแถวแนวรับ 2,840 และ 2,825 จุด ซึ่งเคยเป็นแนวต้านที่สำคัญมาก่ อนหน้านี้
• ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ควา มสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการ บริษัทและประเด็นความไม่แน่นอนท างสงครามการค้า
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.23% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวใน ทิศทางลบ
• ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการ สหรัฐฯที่แข็งแกร่ งและกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนอาจจ ะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิ จเพื่อลดผลกระทบจากประเด็นสงครา มทางการค้ากับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยั งประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่ างสหรัฐฯและญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ จึงกดดันผลประกอบการที่แข็งแกร่ งของบริษัทNikon และ Daikin
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.1% ที่ะรดับ 22,644.31 จุด
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ท่ามกลางประเด็นการปรับขึ้นภาษี ครั้งใหม่และสงครามทางการค้าระห ว่างสหรัฐฯ-จีน ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.3% และดัชนีกลุ่มบลูชิพCSI300 ลดลง 1.6%
• กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ต่อปี โดยเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีทิศ ทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประ เมินไว้ อย่างไรก็ดีต้องติดตามความเสี่ย งที่อาจสะสมความเปราะบางทางระบบ การเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะจากภาวะการเงินที่ผ่อนค ลายเป็นเวลานาน และติดตามภาวะแข่งขันในตลาดสินเ ชื่อที่อยู่อาศัย รวมทั้งความสามารถชำระหนี้ของเอ สเอ็มอี
ทั้งนี้คณะกรรมการที่เห็นควรให้ ขึ้น 0.25% เป็น 1.75% ต่อปี มองว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจมีความ ชัดเจนเพียงพอ และภาวะการเงินที่ผ่อนคลายมากต่ อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจ ประเมินความเสี่ยงของภาวะการเงิ นในอนาคตต่ำกว่าที่ควร จึงเห็นควรปรับขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ ระบบการเงินซึ่งมีผลต่อการขยายตั วของเศรษฐกิจอย่างยั่งยื นในระยะยาว และเพื่อเริ่มสร้างขีดความสามาร ถในการดำเนินนโยบายการเงิน
Related