ข่าว
สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2561
26 ธันวาคม 2561
• นักวิเคราะห์จาก CCB International Securities ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะมองสถานการณ์ ของตลาดหุ้นไปในเชิงบวก เนื่องจากมีปัจจัยด้ านลบมากมายเหลือเกิน และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดน่ าจะมาถึงภายในปีหน้า โดยเรายังอยู่เพียงแค่ช่วงครึ่ งแรกของตลาดขาลงเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะตามมาภายในปีหน้ า
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงอี กครั้ง เนื่องจากความไม่แน่ นอนทางการเมืองสหรัฐฯที่ส่งผลต่ อความกังวลเกี่ยวกับการเติ บโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ได้รั บผลกระทบจากภาวะ Goverment Shutdown รวมถึงท่าทีที่ไม่ พอใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มี่ต่ อประธานเฟดคนปัจจุบัน ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตั วลดลง 0.5%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการทำ short-covering ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิดเพิ่มขึ้น 0.89% ที่ระดับ 19,327.06 จุด
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกั บเศรษฐกิจและความไม่แน่ นอนทางการเมืองสหรัฐฯ เนื่องจากภาวะ Government shutdown ที่ยืดเยื้อและความไม่ พอใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ต่อประธานเฟดคนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.3% ที่ะรดับ 2,498.29 จุด
• นักบริหารทางการเงิน คาด ปี 2562 การใช้จ่ายภายในประเทศจะมี ความสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่ อนเศรษฐกิจ โดยการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้ มเข้าสู่ขาขึ้นหลังจากอัตราใช้ กำลังการผลิตของหลายกลุ่มอุ ตสาหกรรมแตะระดับสูงสุ ดในรอบหลายปี รวมทั้งมาตรการเร่งรั ดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิ จการของรัฐ (PPP fast track) และการเดินหน้าลงทุ นในโครงการโครงสร้างพื้ นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนราว 2.81 แสนล้านบาทในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 0.98 แสนล้านบาทในปี 2561 รวมทั้งปัจจัยบวกจากการลงทุ นทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการย้ ายฐานการลงทุนเพื่อหลีกเลี่ ยงผลกระทบเชิงลบจากสงครามการค้ าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
• ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่ างคณะกรรมการนโยบายการเงิน และคณะกรรมการนโยบายสถาบั นการเงิน เพื่อติดตามและประเมินเสถี ยรภาพระบบการเงินไทย โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า ระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถี ยรภาพ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ ต่อเนื่อง ธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจประกันภัยมีเงินกองทุ นอยู่ในระดับสูง ขณะที่เสถียรภาพด้านต่ างประเทศมีความแข็งแกร่ง สะท้อนจากเงินสำรองระหว่ างประเทศที่อยู่ในระดับสูง ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่ อเนื่อง และภาระหนี้ต่างประเทศที่อยู่ ในระดับต่ำ ซึ่งมีส่วนช่วยรองรั บผลกระทบจากความผั นผวนในตลาดการเงินโลกในช่วงที่ ผ่านมา
• ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิ จของอังกฤษ (CEBR) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ มตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และบราซิล น่าจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ ไว้ ในการเติบโตจนแซงหน้าประเทศกลุ่ มพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ อิตาลี อังกฤษ และฝรั่งเศส เพราะได้รับแรงกดดั นจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
Related