สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2562

ข่าว

สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2562

18 มิถุนายน 2562

 


· ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายวันนี้ บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯคืนนี้จะเปิดผสมผสาน โดยดัชนี Dow futures ปรับลดลง 25 จุด ดัชนีดาวโจนส์ในคืนนี้จึงมีแนวโน้มจะเปิดลดลงอย่างน้อย 15 จุด ขณะที S&P futures และ Nasdaq futures ปรับตัวสูงขึ้น ตรงข้ามกับดาวโจนส์



· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่รอคอยถ้อยแถลงของนายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานอีซีบี รวมทั้งการประชุมเฟดที่จะทราบผลในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ตามเวลาประเทศไทย

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ลดลง 1.1% ขณะที่มีเพียงไม่กี่กลุ่มที่ซื้อขายกันในแดนบวก



· ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดีเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด โดยเหล่านักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนหน้าการประชุมเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่ดัชนี Nikkei ลดลง 0.7%

ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลให้เกิดความต้องการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ลดลง

ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่อ่อนตัวทำให้เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากการโจมตีของเรือบรรทุกน้ำมันสองลำในอ่าวโอมานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนก่อนหน้าการประชมเฟดในช่วงสัปดาห์นี้

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.7% ที่ระดับ 20,972.71 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.

ทั้งนี้ เหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยหนุนให้ตลาดโลกฟื้นตัวจากการขายที่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าที่รุนแรงขึ้น ขณะที่เฟดไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดระมัดระวังการลงทุนก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในสองวันนี้ โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 2,890.16 จุด


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

· ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% อย่างน้อยทั้งปี 62 สวนทางธนาคารกลางหลายแห่งที่มีทีท่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยยังมีข้อจำกัดจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินของประเทศ

จากแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายๆประเทศที่มีแนวโน้มแย่ลง ทำให้ในปีนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศต่างก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงกันไปแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ทั้งธนาคารกลางออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอย่าง มาเลเซียและฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ ธนาคารกลางหลักของโลกก็เริ่มแสดงท่าทีว่าจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง โดย TMB Analytics คาดว่าธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักอย่าง เฟด จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในปีนี้ ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรปอาจใช้มาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มมีความน่ากังวลเพิ่มขึ้น สะท้อนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาย่ำแย่


บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved