· ดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับขึ้นกว่า 1% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอสัญญาณทางการค้า และการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยดัชนี S&P500 ปิด +0.4% ที่ระดับ 2,924.92 จุด ทางด้านดัชนี Nasdaq ปิด +0.7% ที่ 7,967.76 จุด และดัชนี Dow Jones ที่ปิดปรับลง 10.24 จุด ที่ 26,526.58 จุด หลังหุ้น Boeing ปิดลดลง

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมสานเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองหาสัญญาณว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากการประชุมสุดยอด G-20 ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx600 ทรงตัว หุ้นค้าปลีกเพิ่มขึ้นกว่า 2% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้น H&M ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อลดลง 0.07%

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนรอการเปิดตัวการประชุมสุดยอด G-20 ในโอซาก้าประเทศญี่ปุ่นที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน คาดว่าจะพบกันท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้า

โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei ลดลง 0.27% ขณะที่ดัชนี Topix ลดลงเช่นเดียวกัน 0.16%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์


- นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.70-30.80 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าขึ้นมา ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุม G20 ในวันนี้และวันพรุ่งนี้

- ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังไทย (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 62 อีกครั้งในสิ้นเดือนก.ค.นี้ หลังเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากการส่งออกเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยระหว่างนี้จะมีการติดตามปัจจัยสำคัญที่จะมีผลกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลการประชุม G20

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลังไทย เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพ.ค. 62 ว่า "เศรษฐกิจภูมิภาคขยายตัวได้ในภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคกลาง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคเหนือ เศรษฐกิจทรงตัวจากเดือนก่อนตามการชะลอตัวของการลงทุนและภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังไทย (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 62 (ต.ค.61 – พ.ค. 62) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,645,777 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 65,597 ล้านบาท หรือ 4.2% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 40,875 ล้านบาท หรือ 2.5%