สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2562

ข่าว

สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2562

4 กรกฎาคม 2562

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มองโอกาสจะปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงปลายเดือนนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 179.32 จุด ที่ระดับ 26,966 จุด หลังจากที่ตลาดยังคงปิดทำ All-Time High ทางด้าน Nasdaq ปิด +0.7% ที่ 8,170.23 จุด ทางด้าน S&P500 ปิดปรับขึ้น 0.7% ที่ 2,995.82 จุด จากกลุ่ม Real Estate และกลุ่มผู้บริโภคที่ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางบรรดาผู้นำอียูที่เห็นพ้องกันสำหรับการที่ นางลาร์การ์ดผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำทางการเงินหรือประธานอีซีบีในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.8%ท่ามกลางหุ้นหลักส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนบวก ขณะที่บรรดานักลงทุนเชื่อว่าเธอจะมาทำการปรับลดดอกเบี้ย

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการปิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ของหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.52% ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.55%

· วันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.70 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกับทิศทางของค่าเงินมากนัก ขณะที่เหล่านักลงทุนติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขที่เกี่ยวกับการจ้างงานสหรัฐฯ

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระดับที่คาดการณ์ไว้ 3.3% นั้น ยังไม่จำเป็น

ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพราะยังไม่เห็นถึงความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ ธปท.ก็ไม่ปิดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย หากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของ ธปท.อย่างมากและมีความเสี่ยงจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

- กระทรวงพาณิชย์ไทย ยังมั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 3% ท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้า และแม้หลายหน่วยงานได้ทยอยปรับลดอัตราการเติบโตลงเหลือในระดับ 0% แต่ยังเชื่อว่าจากการปรับรูปแบบกิจกรรมทางการตลาดให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นการเจาะตลาดเป็นรายภูมิภาค รายประเทศ และรายเมือง รวมถึงเมืองรอง ซึ่งจะสร้างโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการของไทยให้เพิ่มมากขึ้น

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved