สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2562

ข่าว

สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2562

5 กรกฎาคม 2562

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาอ่อนแอและยังหนุนให้เฟดตัดสินใจทำการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเกิดขึ้นเดือนก.ค. โดยดัชนี Stoxx600 ปิดขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่หุ้นเทเลคอมส์ปิด +0.8%

· ตลาดหุ้นเอเชียชะลอตัวในวันนี้ ก่อนหน้าการประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะเปิดเผยคืนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้หรือไม่

โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei และดัชนี Topix ทรงตัว ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าหุ้น Samsung จะลดลงมากกว่า 1% หลังจากรายงานว่ากำไรไตรมาสสองมีแนวโน้มลดลง 56% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก แม้กระทั่งการเมืองในประเทศ เรื่องความชัดเจนของรายชื่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ที่จะประกาศในคืนวันนี้ อย่างไรก็ดี จากที่หลายสำนักออกมาประเมินว่าเงินบาทมีโอกาสจะแข็งค่าหลุดระดับ 30 บาท/ดอลลาร์นั้น มองว่าคงยังไม่ใช่ในระยะอันใกล้นี้

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย.62 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 76.4 จาก 77.7 ในเดือนพ.ค. เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งถือว่าน่ากังวล เพราะอยู่ในสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อ หากไม่มีปัจจัยด้านบวกเข้ามาช่วยอาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยซึมตัวต่อเนื่องได้

- ม.หอการค้าไทย ยังคงประเมินว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตในระดับ 3.5% หรือในกรอบ 3.3-3.8% โดยเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก เติบโตได้ 2.9-3% ส่วนครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตได้ 4% ขณะที่มองว่าการส่งออกไทยปีนี้ จะเติบโตเพียง 0.5% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 1%

- ประธานเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารมองแนวโน้มค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าหลุด 30 บาท/ดอลลาร์ หากการประชุมเฟดในช่วงปลายเดือนนี้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯลงตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากเฟดส่งสัญญาณว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ หลังภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าตลาดเกิดใหม่

ในภูมิภาคอาเซียนเป็นแหล่งพักเงินที่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลลิปปินส์ ซึ่งจะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นและตลาดพันบัตร ทำให้ค่าเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้

- ธนาคารกรุงไทย ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 3.3% และปีหน้าโต 3.6% โดยปรับลดประมาณการปีนี้ลงจากที่ประเมินไว้เดิม 3.8% หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว เผยนโยบายการเงินทั่วโลกจะผ่อนคลายลงทุกธนาคารกลางพร้อมใช้นโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจขาลงที่มาพร้อมกับเงินเฟ้อระดับต่ำ ส่งผลบาทแข็ง แนะจับตาการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ ทั้งในส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และงบประมาณประจำปี 63

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved