ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าเฟดจะมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้หรอืไม่
โดยดัชนี Stoxx ลดลง 0.2% ด้านหุ้นทรัพยากรปรับลดลง 1.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทเลคอมเพิ่มขึ้น 0.6%
ทั้งนี้ ภาพรวมการเคลื่อนไหวในตลาดเอเชียค่อนข้างเบาบาง โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวผสมผสานกัน
· ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลามเหล่านักลงทุนที่รอคอยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมเดือนนี้
การซื้อขายระหว่างประเทศทั่วโลกคาดว่าจะยังคงเงียบสงบหลังจากวันหยุดประจำชาติสหรัฐฯเมื่อวานนี้ รวมทั้งก่อนการประกาศข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
ตลาดหุ้นและพันธบัตรทั่วโลกปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย. เนื่องจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางโลกจะคงนโยบายเพื่อรองรับการเติบโต ท่ามกลางการชะลอสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ส่งผลเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเช่นกัน
ขณะที่ตลาดให้ความสนใจไปยังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 75,000 ตำแหน่ง มาเป็นประมาณ 160,000 ตำแหน่ง
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากเหล่านักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการประกาศข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืิองแร่ลดลงหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 21,746.38 จุด หลังจากที่เคลื่อนไหวในแดนลบ สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีเพิ่มขึ้น 2.2% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 หลังจากที่มีความหวังที่ว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถเจรจาทางการค้าร่วมกันได้
ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดสหรัฐฯปิดทำการจึงทำให้การซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างเบาบาง
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะส่งสัญญาณว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินเงินในการประชุมเดือนนี้ไปในทิศทางใด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากจีนและสหรัฐฯเตรียมตัวที่จะกลับมาเจรจาทางการค้าร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นยังคงจำกัด เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้หรือไม
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิดลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,011.06 จุด
สำนักข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้า
- นายมานะ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ฝ่าย สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยเกี่ยวกับ มุมมองตลาดเงินว่า ครึ่งปีหลังนโยบายการเงินทั่วโลกจะผ่อนคลายลง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับลำนโยบายการเงินไปในทิศทางผ่อนคลาย รวมทั้งประกาศจะยุติการลดขนาดงบดุลเดือนกันยายนนี้
สำหรับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย มองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 ตลอดปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจภายใต้แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อระดับต่ำ คาดว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ย เพราะการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยิ่งทำให้เงินบาทแข็งค่าซ้ำเติมธุรกิจ ส่งออก ทั้งนี้ด้วยความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นระยะหลัง ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและ นำเข้า ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
สำนักข่าว Thai PR.net
- ผ่านไปแล้วสด ๆ ร้อน ๆ กับการประมูลเพื่อเข้ารับสิทธิ์จัดสรรคลื่นความถี่แรก 700MHz สำหรับใช้ในบริการ 5G ในประเทศไทยผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง เอไอเอส ทรูและดีแทคต่างเข้ามารับการจัดสรรได้ไปคนละ 10MHz สามารถเริ่มให้บริการได้ในเดือนตุลาคมปีหน้าเป็นต้นไป
คลื่นความถี่ต่ำย่าน 700MHz นับเป็นปฐมบทของคลื่นที่จะใช้ปูพื้นความครอบคลุมของ 5G ให้ใช้งานได้ทั่วประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็วแต่โดยเนื้อแท้หรือแกนกลางอันเป็นสิ่งสำคัญและจุดเด่นของบริการ 5G นั้นไม่ได้อยู่ที่การใช้คลื่นต่ำให้บริการเป็นหลักหากแต่เป็นการใช้คลื่นสูงซึ่งมีจุดเด่นคือรองรับปริมาณการใช้งานได้เป็นปริมาณมากพร้อมกันแต่ข้อเสียคือรัศมีทำการของคลื่นสูงนั้นมีน้อยหรือไปได้ไม่ไกลจึงจำเป็นต้องมีคลื่นต่ำมารองรับเป็นรากฐานให้สามารถเข้าถึงบริการได้ก่อนนั่นเองในส่วนของคลื่นสูงและกลาง ทางกสทช.มีแผนจะนำมาเปิดประมูลเพิ่มเติมในปลายปีนี้และกลางปีหน้าเมื่อผู้ให้บริการมีคลื่นหลากหลายสูงกลางต่ำก็จะสามารถเปิดให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งกรอบระยะเวลาคงก็หนีไม่พ้นอีก 1 - 2 ปีที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน